ปรากฏการณ์ที่ขัดกับสามัญสำนึก

ปรากฏการณ์ดังที่ว่าขัดกับสามัญสำนึกนั้น มาจากหลักการทางกลศาสตร์ควอนตัม ที่พยายามศึกษาเกี่ยวกับวัตถุเล็กๆ ในระดับอะตอมแล้ว พบว่ากลศาสตร์ที่ใช้อยู่เดิมไม่สามารถนำมาใช้อธิบายได้เลย จึงต้องมีทฤษฎีใหม่มาอธิบายซึ่งได้แก่กลศาสตร์ควอนตัมนั่นเอง ซึ่งมีแนววิธีที่แตกต่างจากกลศาสตร์ดั้งเดิม แต่พบว่ากลศาสตร์ควอนตัมสามารถนำกลับมาอธิบายหรือใช้ได้กับเรื่องที่เคยใช้ได้กับกลศาสตร์เดิมได้ด้วย กลศาสตร์ควอนตัมจึงถูกต้องกว่า หลักการที่ว่าขัดกับสามัญสำนึกก็คือ
หลักความไม่แน่นอน

ในทางกลศาสตร์ควอนตัมบอกว่าไม่สนามารถวัดอะไรได้แน่นอนแต่วัดได้แต่เพียงโอกาสความน่าจะเป็น โดยคิดว่าไม่ว่าจะวัดอะไรสิ่งที่จะใช้วัดหรือเครื่องมือจะไปรบกวนสิ่งที่จะวัดทำให้วัดค่าได้ผิดพลาดเสมอซึ่งขัดกับสามัญสำนึกของเราที่เคยวัดสิ่งต่างๆ เมื่อวัดแล้วก็ไม่เคยคิดว่าสิ่งที่เราวัดจะเปลี่ยนตำแหน่งไป แต่เป็นความผิดพลาดจากการวัดของเราเอง
ทวิภาคของคลื่นอนุภาค

ทุกสิ่งทุกอย่างในเอกภพสามารถที่จะคิดให้เป็นอนุภาคหรือเป็นคลื่นก็ได้ คนวัตถุสิ่งของทั้งหลายก็สามารถคิดให้เป็นคลื่นและคำนวณความยาวคลื่นออกมาได้ตามสูตร โดยสามัญสำนึกของเราไม่น่าจะมีทางเป็นไปได้ที่เราจะเป็นคลื่น แต่โดยทฤษฎีสามารถเป็นได้จริง จากหลักการนี้ชี้เห็นเห็นถึงสสารและพลังงานก็คือสิ่งเดียวกัน ไม่มีอะไรที่จะคงตัว แน่นอนตายตัว ไม่เที่ยงเป็นอนิจังและไม่มีตัวตนที่แท้จริงเป็นอนัตตา
การทะลุผ่านอุโมง (tunneling)

เป็นปรากฏการณ์ที่โดยสามัญสำนึกแล้วไม่อาจเกิดขึ้นได้ เช่นการที่เราจะเดินผ่านทะลุกำแผงหรือขว้างลูกบอลให้ทะลุกำแพง ในกลศาสตร์ควอนตัมก็คืออนุภาคที่พลังงานน้อยกว่าสิ่งขวางกั้นก็ยังมีโอกาสที่จะทะลุทะลวงผ่านสิ่งขวางกั้นนั้นไปได้ แม้ว่าจะมีโอกาสน้อยก็ตาม จากหลักการนี้นักวิทยาศาสตร์ได้นำไปสร้างกล้องจุลทัศน์ชนิดที่สามารถมองเห็นอะตอมได้เป็นครั้งแรก

คำทำนายจะถูกผิดเมื่อใด

ตอนนี้เราจะเห็นว่ามีโหรหลายสำนักออกมาพยากรณ์เกี่ยวกับการเมือง ว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคใดจะได้เป็นรัฐบาลและจะอยู่ได้นานเท่าใด ซึ่งก็ไม่มีใครบอกได้แน่นอนตายตัวลงไปเหมือนตาเห็นเช่นว่าพรรคใดจะได้กี่ที่นั่งแน่นอน ก็คล้ายๆกับหมอดูคู่กับหมอเดา ก็จะต้องมีคนหนึ่งใกล้เคียงมากที่สุด และแม่นที่สุด
แต่เรื่องที่จะเล่าต่อไปนั้นจะชี้ให้เห็นว่าคำทำนายนั้นสามารถจะเปลี่ยนแปลงได้สำหรับบางคน สำหรับบางกลุ่ม เช่นดังเรื่องนิยายตำนานที่เคยเล่าขานกันมา ดังเช่นในเรื่องโอวาทสี่ของเหลี่ยวฟาน ซึ่งเหลียวฟานเองก็เคยมีผู้ทำนายไว้ว่าเวลาใดจะเป็นอะไรก็ถูกมาหมดแต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่หมอทำนายว่าจะไม่มีลูก คราวนี้เหลียวฟานไม่ยอม ยึดหลักว่าการจะมีลูกได้ต้องหาภรรยา เมื่อหาภรรยาได้แล้วก็ต้องบำรุงให้ร่างกายแข็งแรง และทำการบ้านตามปกติ ก็มีโอกาสที่จะได้ลูกสุดท้ายเหลียวฟานก็ได้ลูกไม่เป็นไปตามคำทำนาย
อีกเรื่องหนึ่งซึ่งสามารถจะพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง เมื่อท่านไปเจอหมอดูบางรายก็มักจะพูดคุยกันก่อน และหมอดูก็มักถามโน่นถามนี่ท่านว่า ชอบอะไร เคยยังงั้น ยั้งงี้ หรือไม่ ถ้าท่านตอบไปตามความจริงหมด ยิ่งหมอบางคนเคยรู้พื้นเพท่านมาก่อนแล้วจะยิ่งแม่นมากเลย แต่ถ้าท่านตอบคำถามแบบแบ่งรับแบ่งสู้ ให้หมด อันนั้นก็ไม่แน่ อันโน่นก็ไม่แน่ ยังไม่คิดอะไรทำนองนี้หมอทายผิดหมดเกือบทุกราย
การดำเนินชีวิตจริงนั้นถ้าปล่อยให้ชีวิตไปตามกระแสโลก ไม่เคยฝึกจิตเจริญภาวนาก็เป็นไปได้มากที่ชีวิตจะไหลไปตามดวงจริงๆ ทำให้หมอทายถูกได้ตามหลักโหราศาสตร์ แต่สำหรับคนที่ปฏิบัติธรรมทำความดีมากเป็นพิเศษที่ฝึกจิตมาดีแล้วจะสามารถฝืนดวงได้ ฝึกสติมาดีแล้วหมอดูหรือโหรมักจะทายไม่ถูก ไม่เป็นไปตามหลักสถิติ และสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตให้สูงส่งขึ้น สามากำหนดชีวิตตัวเองได้มากขึ้นจึงขึ้นอยูกับตัวเองเป็นหลักมากขึ้นมากกว่าที่จะเป็นสิ่งแวดล้อมภายนอกเป็นผู้กำหนด
และเช่นเดียวกันในกรณีคำทำนายทายทักเกี่ยวกับการเมืองขณะนี้ ถ้าในอนาคตพรรคการเมืองใดก็แล้วแต่ขึ้นมาบริหารประเทศแล้วมีกุศโลบายที่ดี สร้างความสมานฉันท์ สร้างความสามัคคีได้ ยึดถือประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้งก็เชือว่าอาจจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีกว่าในคำทำนาย การหาเสียงก็เช่นกันถ้าหากได้ใช้สติกุศโลบายที่ดี ไม่มีเจตนาร้ายหวังดีจริงไม่เอาความเท็จมาพูดก็จะส่งผลดีในอนาตเหล่านี้เป็นต้น ก็จะเป็นไปตามคำทำนายได้ยากเพราะสามารถควบคุมได้บ้าง แต่ถ้าทุกคนหรือคนส่วนใหญ่ช่วยกันด้วยยึดถือทั้งความถูกต้องและดีก็จะยิ่งก่อให้เกิดผลดีขึ้น ด้วยความเชื่อที่ว่าถ้าปัจจัยนำเข้าดีขึ้นส่งให้เกิดผลที่ดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน น่าจะเป็นคำทำนายที่แม่นที่สุด

ส่วนที่ประกอบกันขึ้นเป็นชาติ

มีอยู่บ่อยครั้งที่เราเอ่ยถึงคำว่าชาติ ประเทศชาติ เพื่อชาติ เราพูดติดปากเหมือนกับว่ารู้ความหมายดีโดยอัตโนมัติ ซึ่งเมือถามกันดูจะได้คำตอบวาชาติก็คือประเทศ ประเทศก็คือพื้นที่ และทุกอย่างที่รวมอยู่ในพื้นที่ประเทศไทย ซึ่งพอสรุปได้คือ
1. ประชากร ความรู้ความสามารถของประชากร หน่วยงานที่มีประสิทธิภาพ ที่ประสบผลสำเร็จ รวมถึงบุคลลที่ประสบผลสำเร็จ
2. ทรัพยากรของชาติ ทั้งที่มีอยู่ตามธรรมชาติ และที่สร้างสรรค์ขึ้น ภูมิประเทศ อากาศที่เอื้ออำนวย

3. วิถีชีวิต วัฒนธรรมประเพณี ที่มีความดีงาม เช่น ปู ย่า ตายาย ดูแลหลาน ช่องว่างระหว่างวัยน้อย คนแก่ไม่ว้าเหว่
ที่กล่าวมาแล้วเป็นความหมายที่หมายถึงชาติต่างๆ ทั่วโลกซึ่งแตกต่างกันไป แต่ชาติในทางธรรมตามพุทธศาสนานั้นจะเป็นที่รวมของการเกิดรูป นามหรือจิต ที่ถูกปรุงแต่งแล้วแต่วิบากกรรม ให้หมุนเวียนเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

GNR เทคโนโลยีปฏิวัติโลก

ในโลกยุคที่กำลังจะถึงไม่เกินกึ่งศตวรรษนี้เทคโนโลยีที่จะก้าวขึ้นมาปฏิวัติโลกคือเทคโนโลยีพันธุวิศวกรรมหรือไบโอเทคโนโลยี (Genetic) นาโนเทคโนโลยี (Nanotechnology) และหุ่นยนต์ (Roboics) หรือเทคโนโลยี GNR จะเป็นเทคโนโลยีที่เข้ายึดโครงพื้นที่เป็นส่วนใหญ่
ความก้าวหน้าและการเติบโตแบบก้าวกระโดดของดิจิทัลอิเลคทรอนิกส์ ก่อให้เกิดกรย่อส่วนลดชิ้นส่วนอุปกรณ์ลง ส่งผลให้มีการใช้คอมพิวเตอร์กันทุกหนทุกแห่ง ด้วยการทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลและสารสนเทศที่มีความเร็วเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้เกิดปฏิวัติวงการสารสนเทศ เป็นพื้นฐานของการปฏิวัติ GNR ทั้งสาม
การปฏิวัติในวงการเทคโนโลยีชีวิภาพหรือพันธุวิศวกรรม แบบก้าวกระโดดตั้งแต่การค้นพบจีโนมมนุษย์และการโคลนนิ่ง เพิ่มสารสนเทศด้านนี้แบบก้าวกระโดด และขณะเดียวกันก็ก้าวเข้าสู่การปฏิวัติทางด้านนาโนเทคโนโลยี อันเป็นผลมาจากเทคโนโลยีย่อส่วนอย่างรวดเร็วเพิ่มสารสนเทศด้านวัสดุศาสตร์และระบบเชิงกลดังเห็นได้จากการอ้างอิงผลงานวิชาการทาง Citations เข้าสู่การปฏิวัติวงการหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ที่เข้มแข็ง เกี่ยวข้องกับวิศวกรรมย้อนรอยถอดแบบการทำงานสมองของมนุษย์ ซึ่งหมายถึงการเข้าใจปัญหาของมนุษย์ในเทอมของสารสนเทศ
การควบรวมผสมกันกับการปฏิวัติทั้งสามด้าน มีการแปลงรูปแบบและคาบเกี่ยวกันและกัน เพิ่มฐานพลังการคำนวณจากการปฏิวัติทั้งสามด้าน คือพันธุวิศวกรรม นาโนเทคโนโลยี และหุ่นยนต์ที่จะเข้าไปแทรกอยู่เป็นส่วนใหญ่ในกี่งศตวรรษนี้ อันเป็นตัวแทนของการปฏิวัติทางด้านสารสนเทศด้านต่างๆ ที่แตกต่างกัน ถึงกับมีนักวิทยาศาสตร์มีชื่อเสียงคนหนึ่งกล่าวไว้ว่า อีกไม่เกิน ค.ศ.2045 จะไปถึงจุดที่ว่าการแปลงรูปความสามารถมนุษย์ สร้างสรรค์สิ่งไม่มีชีวิตที่มีความฉลาด (intelligence)มากกว่าความฉลาดที่มนุษย์ในปัจจุบันนับพันล้านเท่า

แนวโน้มและการเชื่อมต่อหน่วยความจำสำรอง

หน่วยความจำสำรอง หรือที่เรียกกันว่าแหล่งเก็บข้อมูลภายนอก ที่ใช้กันสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลได้แก่ ฮาร์ดดิสค์ ซีดีรอม และแฮนดีไดร์หรือทัมซ์ไดร์ฟ สำหรับฮาร์ดดิสค์กับ ซีดีรอมนั้นเป็นแหล่งเก็บข้อมูลที่มีมาตั้งแต่เริ่มคอมพิวเตอร์สามารถนำเสนอมัลติมีเดียได้ ซึ่งทั้งซีดีรอมและฮาร์ดดิสค์ใช้สายแพร์ในการเชื่อมต่อเข้ากับแผงวงจรหลักเดียวกัน สำหรับแฮนดีไดร์ฟนั้นเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ที่ช่องเสียบ หรือพอร์ต(port) แบบยูเอ็สบี ซึ่งทำให้สะดวกในการใช้งานมากขึ้น และต่อมาทั้งฮาร์ดดิสค์และแฮนดีไดร์ฟก็สามารถเชื่อมต่อกับพอร์ตยูเอสบีได้เช่นเดียวกัน
ตอนแรกๆ มีผู้คิดวงจรเชื่อมต่อฮาร์ดดิสค์และซีดีรอมผ่านพอร์ทยูเอสบี โดยใช้ฮาร์ดดิสค์หรือซีดีรอมอะไรก็ได้ แต่ข้อเสียคือฮาร์ดดิสค์และซีดีรอมมีขนาดใหญ่ ไม่เหมาะสำหรับการพกพาและต้องมีแหล่งจ่ายไฟภายนอกต้องเสียบปลั๊กไฟบ้านมีสายระโยงระยางไม่สะดวก แต่เมื่อมีการพัฒนาฮาร์ดดิสค์ให้ขนาดเล็กลงมากๆ และกินไฟน้อย ไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายภายนอกสามารถดึงไฟฟ้าระดับแรงดันไฟฟ้าไม่เกิน 5 โวลท์จากเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านทางช่องยูเอสบี เช่นเดียวกับแฮนดีไดร์ฟ ซึ่งก็ใช้กำลังงานไฟฟ้าผ่านทางพอร์ตยูเอสบีเช่นกัน
แม้ว่าฮาร์ดดิสค์จะมีขนาดเล็กลงมากเล็กกว่าครึ่งหนึ่งของฝ่ามือ ขณะที่ใช้งานก็ยังรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวหรือการหมุนของจานเก็บบันทึกข้อมูล หากเผลอทำตกก็มีโอกาสเสียหายได้มากกว่าแน่นอน เมื่อมองในแง่นี้แฮนดีไดร์ฟซึ่งมีน้ำหนักเบาไม่มีส่วนใดเคลื่อนไหวเลยขณะทำงาน น่าจะปลอดภัยใช้งานได้นานกว่า แม้จะมีความจุน้อยกว่าฮาร์ดดิสค์แต่ก็ได้พัฒนาไปจนกระทั้งว่าสามารถนำมาใช้แทนฮาร์ดดิสค์ได้ และน่าจะมีอนาคตมากกว่าฮาร์ดดิสค์ถ้าไม่ต้องการความจุสูงมาก และในอนาคตก็มีแนวโน้มว่าแฮนดีไดร์ฟซึ่งทำมาจากแฟล็ตเมมโมรีสามารถที่จะเพิ่มความจุได้ให้มากขึ้น นำมาใช้ทดแทนฮาร์ดดิสค์ได้ถ้าราคาไม่สูงกว่ามากนัก

วิธีการเชิงระบบและการแก้ปัญหาเชิงรุก

ปกติ แล้ววิธีการเชิงระบบนั้น เข้าใจว่าเป็นการมองปัญหาให้รอบด้านดูความสัมพันธ์ที่อาจมีผลต่อความสำเร็จ ในการดำเนินงานใดงานหนึ่ง โดยทั่วไปต้องมีการวิเคราะห์ปัญหา เพื่อพิจารณาค้นหาความต้องการ ความจำเป็น และทางเลือกใหม่ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพ เพื่อการพัฒนา และตั้งแต่เรามีแผนยุทธศาสตร์มาการใช้คำในการดำเนินงานตามแผนที่มีการกำหนด แนวทาง และวิธีการดำเนินการไว้ล่วงหน้าโดยไม่รอให้ปัญหาเกิดเสียก่อนว่าวิธีการเชิง รุก เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อแผนยุทธศาสตร์ ที่แปลตามตัวว่าแผนการรบ เพื่อการแก้ปัญหา เพื่อการพัฒนาให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ดังนั้นการแก้ปัญหาเชิงรุกจึงไม่ใช่การรุกรบจริงๆ แต่เป็นความพยายามที่จะแก้ปัญหาก่อนที่จะเกิดปัญหาจริงๆ หรือเป็นความพยายามที่จะสร้างสิ่งดีๆ ความพยายามที่จะก่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล อันนำไปสู่การพัฒนาด้านต่างๆ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิต

การทำงานเชิงรุกไม่ใช่การแก้ปัญหาโดยการแจกเงินที่นักการ เมืองชอบใช้ช่วงหาเสียง แต่เป็นการใช้เงินเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน เสียมากกว่า ตัวอย่างงานกิจกรรมเชิงรุกที่มีการดำเนินการเช่นว่า สำหรับคนตั้งครรภ์ก็มีการแจกคู่มือการดูแลครรภ์ และการเลี้ยงดูเด็กอ่อนหรือทารก อาจระบุให้มีการสังเกตดูการพัฒนาการของเด็ก เมื่อมีอะไรที่ผิดปกติก็จะได้แก้ไขได้ทันหรือลดบรรเทาปัญหาลงได้ เช่นมีอาการแบบนี้ต้องไปพบแพทย์ อาจจะมีชุดฝึกกล้ามเนื้อทั้งผู้ตั้งครรภ์ และสำหรับเด็ก มีคู่มือสำหรับครู โรงเรียนเมื่อเข้าโรงเรียน และโรงเรียนรับให้เข้าเรียน
ที่ยกมาเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่ง ยังมีอีกหลายอย่างที่สถาบันอุดมศึกษาสามารถทำได้โดยการวิจัย เช่นเมื่ออายุ 35 ปีก็มีคู่มือสำหรับบุคคลวัยกลางคน ที่มีรายละเอียดว่าวัยนี้ควรจะดูแลสุขภาพใดบ้าง สำหรับคนวัย 50-60 ปีก็จะมีการเตรียมความพร้อมในการดูแลสุขภาพ เตรียมตัวสำหรับวัยเกษียณ และเมื่อเกษียณแล้วก็จะมีคู่มือสำหรับผู้เกษียณ และบ้านหลังใดมีคนที่อายุเกิน 60 ปีก็จะได้รับคู่มือการดูแลผู้สูงอายุ สำหรับบุตรหลานที่กำลังจะแต่งงาน ก็น่าจะมีคู่มือสำหรับคู่สมรส ให้ทราบรายละเอียดในสิทธิ์ ต่างๆ ตั้งแต่ของหมั้นสินสอด การจดทะเบียนสมรส ทำอย่างไรบ้าง มีคู่มือดูแลสุขภาพสำหรับคู่สมรส โดยไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล วันจดทะเบียนควรได้รับการดูแลสุขภาพ เมื่อคลอดลูกคนแรกก็ควรจะถามหาคู่มือการเลี้ยงดูเด็ก หรือรพ.ควรจะวางคู่มือไว้ มีวีดีโอ ดีวีดี เปิดดูได้สำหรับวิธีการเลี้ยงดูลูกไว้ให้ดู
เมื่อเริ่มมีฐานะที่จะสร้างบ้านได้ ในการสร้างบ้านก็ควรจะมีคู่มืออะไรบ้าง เพื่อให้ได้บ้านตามที่ตัวเองต้องการ และดูแลสิ่งแวดล้อมได้ เพราะเจ้าหน้าที่พนักงานผู้รับเหมา นั้นเขาจะทำตามแบบแปลน ฉะนั้นคนที่จะเป็นเจ้าของบ้าน ควรจะได้เตรียมการก่อนสร้างบ้าน หารูปแบบอันเป็นทางเลือกดีๆ วางแผนดูความเป็นไปได้ วิเคราะห์ความเสี่ยงเสียก่อน แล้วปัญหาต่างๆ ในชีวิตครอบครัวก็จะเกิดน้อยที่สุดอันเนื่องจากการใช้วิธีเชิงระบบและการแก้ ปัญหาเชิงรุกนั่นเอง

ฝนตกน้ำท่วม

แต่ละปีเมื่อฝนตกติดต่อกัน เป็นเวลานานก็จะทำให้เกิดน้ำท่วมจากการสะสมของน้ำไม่ว่า จะระบายน้ำทันหรือไม่ก็ตามทั้งนี้เพราะ เกี่ยวข้องกับระดับน้ำทะเลด้วย เพราะเมื่อระดับน้ำทะเลสูงด้วย น้ำก็ไม่อาจไหลลงทะเล เพราะตามหลักของฟิสิกส์ น้ำจะไหลจากที่สูงไปสู่ที่ต่ำ และเมื่อพิจารณาดูตามประหวัดโย้นหลังไปเป็นร้อยปี ก็พบว่าน้ำมีการท่วมทุกปี  เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมบ้านเรือนทางภาคใต้มีลักษณะที่เป็นใตถุนสูงเป็นส่วนใหญ่  เมื่อหน้าน้ำหลากในหน้าฝนก็จะท่วมใต้ถุน และเตรียมเรือไว้สันจรด้วย

ในปัจจุบันก็จะยังคงมีน้ำท่วมเหมือนกัน  แต่ไม่ใช่ว่าทุกท้องที่จะมีน้ำท่วมเหมือนกัน บางท้องที่หลายปีจึงจะท่วมสักครั้งหนึ่ง แต่บางท้องที่น้ำท่วมเกือบทุกปี บางท้องที่น้ำไม่เคยท่วมก็มีน้ำท่วมก็มี  สาเหตุง่ายๆ ที่เรากล่าวอ้างได้ก็คือเพราะสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลง มีการตัดต้นไม้ทำลายป่ามากขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของภูมิประเทศ ที่อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วม และส่งผลความเสียหายเช่น เช่นแผ่นดินถล่ม บ้านเรือนพังเสียหาย พืชพรรณเศรษฐกิจเสียหาย   และที่อาจอ้างเป็นสาเหตุได้เสมอก็คือ ผลจากภาวะโลกร้อนที่ทุกประเทศมีส่วนทำให้เกิดขึ้น เช่นการกระทำต่อไปนี้
-การทำลายป่าไม้เพื่อใช้เป็นที่ทำกินอยู่อาศัย แหล่งเพราะปลูกทำเกษตรโดยไม่ปลูกต้นไม้เพิ่มเติม
-การใช้พลังงานในรูปแบบต่างๆ ในยานยนต์ เครื่องจักรกล ที่ใช้เชื้อเพลิง
-โรงงานอุตสาหกรรมที่มีการปลดปล่อยของเสีย มีการเผาไหม้แล้วปลอปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์
      ดังนั้นการเกิดภาวะโลกร้อนนั้น ทั้งประเทศที่พัฒนาแล้วและที่พัฒนาน้อยต่างก็มีส่วนทำให้โลกร้อนขึ้น ทำให้น้ำแข็งที่แถบขั้วโลกละลายกลายเป็นน้ำ และอาจและกลายเป็นไอมากขึ้น ทำให้มีน้ำหมุนเวียนในบรรยากาศเพิ่มขึ้น จึงเป็นธรรมดาที่จะทำให้น้ำท่วมบ่อยมากขึ้น และระดับน้ำที่สูงขึ้น สอดคล้องกับ การเกิดพายุที่ถี่และบ่อยขึ้น และมีความรุนแรงมากขึ้น
      ในประเทศพัฒนาแล้วแม้ว่าจะดูแลรักษาป่าไม้ไว้ได้ดี แต่ก็มีโรงงานอุตสาหกรรมมาก มีส่วนให้เกิดภาวะโลกร้อนได้พอๆ กับประเทศพัฒนาน้อย หรือมากกว่าด้วยซ้ำไป  ถ้าเมื่อไรประเทศพัฒนาแล้วยังเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดโลกร้อน แล้วเราจะไปหวังอะไรได้กับการที่จะช่วยโลกให้รอดพ้นวิกฤตินี้ต่อไปในอนาคต ทางเดียวที่มนุษย์ชาติจะอยู่รอดต่อไปได้ก็คือ ศิลธรรมต้องกลับมา ลดกิเลสลง การศึกษาต้องไม่ทำให้เกิดการเพิ่มกิเลส   และกลับพัฒนาจิตใจของคนให้อยู่ร่วมกับธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติอย่างสมดุลเท่านั้น

การพลิกกระบวนทัศน์กับปีเตอร์ เซ็งเก

ผลงานของปีเตอร์เซ็งเก ในการทำให้เกิดการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในด้านการบริหารจัดการ เป็นการบริหารแบบใหม่ จากหนังสือ The Fitth Discipline หรือวินัย 5 ประการ  การบริหารจัดการแบบใหม่ แบบวิทยาศาสตร์กระบวนทัศน์ใหม่ เป็นการพลิกกระบวนทัศน์ในการบริหารจัดการ ในการเป็นผู้นำที่ การดำเนินชีวิตจะไม่เหมือนเดิม โดยเฉพาะชีวิตในการทำงาน และการเป็นผู้นำ

ความสมานฉันท์

การจะสมานฉันท์กันได้นั้นก็ควรที่จะพูดคุยกันหันหน้าเข้าหากัน การพูดกันคนละทีคนละที่คนละเวลา เหมือนกับการหันหลังให้กัน มีแต่จะสั่งสมปัญหาให้เกิดมากขึ้นทุกทีจนยากจะแก้ไขเยียวยา

ความรู้ใหม่

ต่อไปความรู้ใหม่คือความรู้ทางวิทยาศาสตร์ใหม่ทีผสมผสานโลกวิทยาศาสตร์เข้ากับมิติทางสังคม เพราะวิทยาศาสตร์อย่างเดียวอาจไม่เกิดประโยชน์ บางครั้งทำให้เกิดโทษด้วยซ้ำไป

proverb วันละคำ

A man may die and fall but Idea lives on, Idea have endurance without death.

who wrode this tell me  ....Thanks

ปัจจัยความก้าวหน้า

แนวคิดของการลงทุนเพื่อการเติบโตและก้าวหน้า จะมองไปที่การเติบโตอย่างยั่งยืน จะเป็นได้ก็ต่อเมื่อมีความสามารถในการสร้างนวัตกรรมสิ่งใหม่ๆ หากขาดการเติบโตที่ยั่งยืนแล้วความคิดสร้างสรรนวัตกรรมใหม่ก็จะถดถอยลงไป และหน่วยงานหรือบริษัทก็จะอยู่ในวังวนแห่งความล้มเหลว

การเกิดขึ้นของความคิด

ความคิดส่วนใหญ่เกิดขึ้น ขณะที่ผู้คน แลกเปลี่ยนข่าวสารกัน ยิ่งมีบทสนทนามากเท่าใด ความคิดก็เกิดมากเท่านั้น  ถ้าถามว่าการคิดคืออะไร ก็คือความพยายามี่จะเชื่อมโยงกันระหว่างมโนทัศน์  หรือยังมีมโนทัศน์อะไรที่เข้ามาเกี่ยวข้อง  การจะคิดอะไรต่อได้ก็ต้องมีข้อมูลสารสนเทศ หรือมีความรู้บางอย่างอยู่แล้ว เป็นตัวการให้เกิดความรู้ใหม่จากการคิด

การคิดค่าใช้จ่ายต่อหัวนักศึกษา

ในสถาบันอุดมศึกษาหลายแห่งมีการคิดค่าใช้จ่ายของมหาวิทยาลัยต่อหัว ว่าในการจัดการศึกษาโดยเฉลี่ยมหาวิทยาลัยต้องจ่ายให้นักศึกษาแต่ละคนประมาณกี่บาท วิธีการที่ง่ายที่สุดก็ไม่ใช่เป็นเรื่องยาก เพราะรู้อยู่ว่าในแต่ละปีมีค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าใด เพราะถือว่าการใช้จ่ายทุกอย่างก็เพื่อใช้ในการผลิตนักศึกษา แม้ว่าจะมีงานบริการ ก็เป็ํนการบริหารเพื่อประโยชน์เพื่อชื่อเสียงของสถาบันอุดมศึกษาซึ่งสามารถนำมาคิดเป็นค่าใช้จ่ายได้ 

การคิดค่าใช้จ่ายต่อนักศึกษา 1 คนที่ต้องจ่ายในการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพ บางแห่งก็คิดมาจาก total unit course ที่มีที่ไปที่มาในการคำนวณ โดยคำนวนเป็นค่าใช้จ่ายต่อหน่วยกลาง ถ้าคำนวนได้น้อยไป อาจแสดงถึงต้นทุนการผลิตที่สูงผิดปกติ  ถ้าคำนวณได้ต่ำกว่าค่าใช้จ่ายต่อหน่วยกลางมาก ก็เป็นไปได้ว่าผลผลิตที่ได้ไม่ค่อยมีคุณภาพ ในการคิดค่าใช้จ่ายต่อหน่วยควรจะมีการคิดถึงสัดส่วนอาจารย์ต่อนักศึกษาเป็นอย่างไร ค่าเสื่่อมราคาต่อต้นทุนต่อหน่าย

ต้นทุนทางตรง  จะหมายถึงค่าใช้จ่ายเฉพาะในสาขาวิชา ระดับคณะ ค่าใช้จายที่เกิดขึ้นใช้เฉพาะในคณะ การปันส่วนค่าใช้จ่ายลงไปในสาขาวิชาอื่นมากน้อยเพียงใด   สำหรับต้นทุนทางอ้อม เป็นค่าใช้จ่ายที่ใช้ร่วมกันหลายสาขาวิชา แบ่งเป็นระดับคณะและมหาวิทยาลัย
สูตรการคำนวณ หาค่าใช้จ่ายเต็มเวลาของนักศึกษาที่คิดให้เรียนปีละ 36 หน่วยกิจ หรือเป็นค่า FTES
โดยที่ค่า
FTES = (จำนวนหน่วยกิตที่ลงทะเบียนรายวิชา x จำนวนนักศึกษา)/36

ดังนั้นต้นทุนต่อหน่วย = (ต้นทุนทางตรง + ต้นทุนทางอ้อม)/FTES

5 นาทีพิทักษ์โลก

ท่านประหยัดน้ำได้ท่านก็ช่วยพิทักษ์โลกส่วนหนึง เพราะการประหยัดน้ำเป็นการประหยัดพลังงาน อย่างหนึ่งเคยอาบน้ำด้วยน้ำ 10 ขั้นก็ลดลงเหลือ 5 ขัน ถ้าเคยใช้ฟักบัวตลอดเวลาก็ปิดตอนถูสบู่  และถูสบู่ให้นานขึ้น เพราะการล้างออกเร็วสิ่งสกปรกยังหลุดออกไปไม่หมดต้องใช้น้ำล้างมากขึ้น การที่ท่านถูสบู่ให้นานๆ จนความเป็นฟองหายไปเกือบหมด แต่ร่างกายของท่านจะสะอาดมากกว่าและเมื่อใช้น้ำล้างก็ใช้น้ำน้อยลงมากที่เดียวลองดูนะครับ

ความหมายของเว็บล็อกนี้

sowhat มีอะไรไหม แล้วไง ก็ไม่ยังไง อะไรก็ได้ไม่สนใจ ใส่ใจอะไรมากนักเชิญผู้ร่วม แสดงความคิดเห็น เขียนมาได้เลยไม่ว่าเรื่องอะไรแสดงข้อคิดเห็นได้ไม่ว่า กัน ไม่เห็นด้วยก็เขียน เห็นด้วยก็เขียน หรือมีอะไรอีกไหมที่ยังเขียนได้  เว็บล็อกนี้ก็จะมีคุณค่าตรงที่ ความคิดจากทุกท่านที่พบ เจอะเจอ แล้วนำมาเขียน จากประสบการณ์บอกเล่า จากประสบการณ์ที่เห็นเชิงประจักษ์ เป็นต้น 

ทำอะไรนึกถึงกลุ่มเป้าหมาย

ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ถ้าเกี่ยวข้องกับคนก็ต้องมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย เพราะแต่ละกลุ่มมีความแตกต่างกัน จะต้องออกแบบปฏิสัมพันธ์กับแต่ละกลุ่มได้อย่างเหมาะสม หรือจะกำหนดเป็นกลุ่มที่สงสัย ไม่มั่นใจ หรือเป็นกลุ่มรุ่งเรือง ในการทำธุรกิจรายได้ย่อมมาจากกลุ่มลูกค้า ทำอย่างไรให้ลูกค้าครั้งแรกเป็นลูกค้าซ้ำ นั่นก็คือต้องมีนวัตกรรมให้แก่ลูกค้า

ทำดีแต่ต้น

ทำให้ดีแต่ต้นจะสร้างความประทับใจ ความเชื่อถือได้  และอย่าให้เป็นผู้ด้อยโอกาสตั้งแต่เริ่มต้นชีวิต อย่างไรก็ตามคนล้มอย่าข้าม  คนธรรมดาอย่าหมิ่น เพราะอาจมีสักวันหนึ่งที่เขาลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ก็เป็นไปได้

วงจรคุณภาพ

ตามวงจรคุณภาพของเดมมิ่ง ที่ใช้ตัวย่อคำภาษาอังกฤษว่า PDCA  หรือ Plan Do Check Act  นั้นหมายถึงว่าทำอะไรก็แล้วแต่ต้องให้ความสำคัญกับการวางแผนที่ดี การเตรียมการที่ดี แล้วทำไปตามแผนที่ว่านั้น ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นไปอีกก็ให้ดีกว่าที่กำหนดไว้ในแผน การจะทำดีไม่ดี มากน้อยเพียงไหนก็ต้องมีการตรวจสอบหรือมีการประเมินผลอย่างไม่ลำเอียงเข้าข้างตัวเอง ถ้าให้คนที่เป็นกลางมาประเมินได้เป็นดี 

จุดอ่อนที่สำคัญในขั้นตอนการวางแผนก็คือ ไม่มีปฏฺิทินในการทำงานตามแผน เมื่อใช้พีดีซีเอ เมื่อมีการประเมินก็ต้องมีการกระทำทันทีหรือ immediatly action นั่นเอง เพื่อเข้าสู่รอบใหม่ของวงจรคุณภาพ

เตรียมใจเป็นผู้สูงอายุ

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดไปเสียตั้งแต่รายทางก่อนที่ก้าวสู่วัยผู้สูงอายุ สำหรับฉันนั้นเริ่มตั้งแต่เลยวัยเกษียณที่อายุ 60  ก็เริ่มเป็นผู้สูงอายุ ถ้ายังไม่เกษียณก็ยังถือว่าเป็นวัยทำงาน ยังไม่ใช่คนสิ้นไร้ไม้ตอก แต่คุณภาพชีวิต เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเมื่อคุณภาพชีวิตต่ำกว่ามาตรฐาน และหนักไปกว่านั้นก็คือ กลายเป็นภาระของรัฐบาล และปัจจุบันพบว่า ต้องสิ้นเปลืองบประมาณมหาศาล  เราคงจะไม่มีความภูมิใจในชีวิตบั้นปลายถ้าทำความเดือดร้อนให้ผู้อื่นโดยไม่ได้ทำประโยชน์ใดๆ ให้กับสังคม  แม้ว่าข้อมูลจะบ่งให้ทราบว่า มีผู้สูงอายุประมาณร้อยละ 7 ถูกทอดทิ้งนั้นก็หมายถึงผู้สูงอายุที่ไม่มีคุณค่าใดที่ปราศจากคนเหลียวแล ในร้อยคนจะมีอยู่ราย 7-8 คน แล้วเราจะแก้กันอย่างไร 

สมาคมผู้สูงอายุน่าจะมีส่วนในการช่วยเหลือในส่วนนี้ โดยมีกิจกรรมให้ผู้สูงอายุ หาที่หาทางให้ผู้สูงอายุอยู่ได้อย่างอัตภาพ และทำให้ชีวิตเขามีคุณค่าสามารถทำคุณประโยชน์ได้

แนวคิดการแก้ปัญหา

เมื่อมีปัญหาก็ต้องวิเคราะห์ดูว่ามีองค์ประกอบอะไรที่มาเกี่ยวข้อง เพื่อดูความต้องการหาความต้องการว่ามีอะไรบ้าง และความต้องการนั้น ถ้าทำได้ตามต้องการ คงต้องคิดหาทางเลือกใหม่เพื่อที่จะยกระดับคุณภาพ แล้ววางแผนให้เห็นถึงความเป็นไปได้ และทำตามแผนได้มากน้อยแค่ไหน จากนั้นต้องติดตามผลดูว่าเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ และที่สำคัญมีประโยชน์มีคุณค่าพอหรือไม่  หรือจะกลับไปวิเคราะห์ปัญหาหาความต้องการใหม่ และเริ่มเข้าสู่วงรอบใหม่